10 ข้อดีเรียนต่างประเทศ มันดียังไง? แบบหาจากที่ไหนก็ไม่ได้!!
10 ข้อดีเรียนต่างประเทศ มันดียังไง? แบบหาจากที่ไหนก็ไม่ได้!!
กระแสการเรียนต่อต่างประเทศเรียกได้ว่ามาแรงมากในช่วงนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียนต่อที่ประเทศออสเตรเลีย ถือได้ว่าเป็นจุดมุ่งหมายอันดับต้นๆของนักเรียนต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลกเลยก็ว่าได้ เนื่องจากคุณภาพการศึกษาที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก
นอกจากกระแสการเรียนต่อต่างประเทศแล้ว การเรียนต่อต่างประเทศหลังเรียนจบมัธยม หรือต่อปริญญาโท ก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินเอื้อมอีกต่อไปเมื่อหลายมหาวิทยาลัยต่างกับสถาบันต่างๆในต่างประเทศเปิดหลักสูตรการเรียนการสอน Diploma และ Bachelor Master มาหลากหลายสาขาวิชาเฉพาะออกมาแข่งขันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นอีกทางเลือกที่สำหรับใครที่กำลังลังเลว่าควรจะเลือกเรียนที่ไหนดีระหว่างเรียนต่อไปก่อน หรือ เรียนต่อต่างประเทศไปเลย ?
แม้ว่าการเรียนต่อต่างประเทศนั้นจะไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งเรื่องการปรับตัว การไปอยู่ที่ที่ไม่คุ้นเคย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเรียนต่อต่างประเทศนั้นจะทำให้น้องๆได้รับประสบการณ์ชีวิตแบบที่หาไม่ได้จากที่ไหนอย่างแน่นอน เริ่มเลย!
10 ข้อดีเรียนต่างประเทศ เริ่มเลย!
- ความอิสระในการใช้ชีวิต และการเรียนแบบเน้น Self-Learning
ในขณะที่เราได้เรียนรู้ในการพึ่งพาตัวเอง การรักษาเวลาและความรับผิดชอบ แต่ก็ได้มาด้วยความอิสระในการใช้ชีวิต การจัดตารางเวลาอ่านหนังสือและการเรียนเอง แบบ Self-Learning และ Critical Thinking การทำการบ้านแบบให้คิดนอกกรอบได้และสามารถนำประสบการณ์จากการทำงานส่งมหาลัยไปใช้ในการทำงานจริงได้ ทำให้สามารถมั่นใจได้ว่าเมื่อจบมาแล้ว สามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในการทำงานจริงได้ - คลาสในห้องไม่เกิน 20 คน
อย่างที่ทุกคนน่าจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าการที่มีห้องเรียนขนาดเล็ก และมีนักเรียนนักศึกษาต่อห้องเรียนไม่มาก มีผลทำให้นักเรียนได้โฟกัสกับการเรียนมากขึ้น ทำให้มีแรงผลักดันในการเรียนและมีส่วนร่วมในการเรียนและออกความคิดเห็นมากขึ้นกับอาจารย์และเพื่อนๆในคลาสเรียน ส่งผลทำให้เรียนรู้ได้ดีขึ้นผลการเรียนดีขึ้นในชั่วโมงเรียนที่เท่ากันเมื่อเทียบกับคลาสขนาดใหญ่ ดังนั้น สถาบันและมหาวิทยาลัยออสเตรเลียจึงมีทั้งคลาสเรียนทั้งแบบห้องใหญ่ และกลุ่มย่อย หรือคลาส Tutorial โดยจะมีนักเรียนในห้องส่วนใหญ่ไม่เกิน 20 คน ทำให้อาจารย์สามารถสอนนักเรียนได้อย่างทั่วถึงและดึงประสิทธิภาพของนักเรียนได้มากที่สุดนั่นเอง - เข้าถึงข้อมูลการเรียนได้ตลอดเวลา
สามารถเข้าถึงข้อมูลการเรียนการสอนทั้งล่วงหน้าและย้อนหลังได้ตลอดเวลา เช่น เนื้อหาการเรียน ตารางการส่งงาน วีดีโอการสอนของอาจารย์ย้อนหลัง รวมถึงเนื้อหาวิชาที่เคยเรียนไปแล้วเมื่อไหร่ก็ได้ ทำให้สามารถจัดตารางเวลาเรียนเอง และสามารถทบทวนได้ทุกเมื่อ อีกทั้งยังสามารถดูตัวอย่างข้อสอบย้อนหลังเพื่อเตรียมตัวล่วงหน้าได้อีกด้วย - มาตรฐานการตรวจงานที่ชัดเจน
มีมาตรฐานการตรวจงานที่ชัดเจนและนักเรียนทุกคนสามารถเข้าถึงได้ อีกทั้งสามารถสอบถามอาจารย์หรือร้องเรียนได้หากคิดว่าคะแนนที่เราได้รับไม่ตรงต่อคุณภาพของงานเรา สามารถขอให้อาจารย์ตรวจงานเราอีกครั้งได้ และสามารถถามถึง Feedback ถามถึงข้อผิดพลาดได้ ไม่ว่าจะเป็นงานที่ส่งไป หรือแม้กระทั้งข้อสอบที่เราทำได้อีกด้วย - ระยะเวลาของหลักสูตรสั้นกว่าที่ไทย
ระยะเวลาของหลักสูตรสั้นกว่าที่ไทย เช่น ปริญญาตรีในไทยบางคณะบังคับให้เรียน 4 ปี แต่ที่ออสเตรเลียสามารถเรียนเพียง 3 ปี รวมถึงมีหลักสูตร Pathway ทำให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเรียนมหาวิทยาลัย อีกทั้งสามารถเรียนต่อระดับปริญญาตรีในระดับ Honor เพิ่มอีกแค่ปีนึงและต่อยอดไปยังปริญญาโทได้โดยไม่ต้องผ่าน Master Coursework ก่อนอีกด้วย - ได้ฝึกงานกับบริษัทในต่างประเทศ
มีโอกาสได้ฝึกงานกับบริษัทข้ามชาติในต่างประเทศ โดยสถาบันและมหาวิทยาลัยหลายๆแห่งในออสเตรเลียจะมี Partner กับบริษัทต่างๆหลากหลาย อีกทั้งสามารถขอ Reference Letter จากทางมหาวิทยาลัยเพื่อไปสมัครฝึกงานในระหว่างเรียนก่อนจบได้อีกด้วย ทำให้ ได้พัฒนาทั้ง Hard Skills และ Soft Skills เก็บ Exprience ระหว่างเรียน สามารถแสดงความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนความคิดได้ทั้งในมหาวิทยาลัยและนอกมหาวิทยาลัย โดยไม่มีการกดดันจากระบบอาวุโสในระบบการทำงานต่างประเทศอีกด้วย - สามารถอยู่ทำงานต่อที่ต่างประเทศหลังเรียนจบ
อย่างในประเทศออสเตรเลีย สามารถขอวีซ่าหลังเรียนจบ สามารถอยู่ทำงานต่อที่ต่างประเทศได้มากถึง 4 ปีเลย ด้วย Temporary Graduate visa (subclass 485) Post Study Work Stream ทำให้สามารถทำงานต่อต่างประเทศ และอาจต่อยอดไปยัง Working Visa และเป็นพลเมืองของออสเตรเลีย (Permanent Resident PR) หลังเรียนจบอีกได้ด้วย - มีค่าแรง ค่าตอบแทนการทำงานสูงติดอันดับโลก
มีค่าแรงขึ้นต่ำสูงกว่าที่ไทย อีกทั้งเพิ่มโอกาสด้านคอนเนคชั่น ทั้งในระหว่างทำงานและระหว่างเรียน บวกกับวุฒิการศึกษามีมาตรฐานระดับสากล และเป็นที่ยอมรับของทั่วโลก ทำให้เมื่อจบมามีอัตราการจ้างงานที่สูงกว่าเมื่อจบจากสถาบันต่างๆหรือมหาวิทยาลัยในประเทศออสเตรเลียอีกด้วย - มี Work Life Balance ที่ดี
มี Work Life Balance ทำให้รู้จักการแบ่งเวลาในการเรียนและการใช้ชีวิต เพราะที่ออสเตรเลียวีซ่านักเรียนสามารถทำงานได้โดยปกติแล้ว 40 ชั่วโมงต่อ 2 สัปดาห์และสามารถทำงานได้ไม่จำกัดในช่วงปิดเทอม ไม่ใช่แค่นักเรียนไทยที่ทำงานไประหว่างเรียนไปเท่านั้น คนออสซี่เองเขาก็ทำงานไปเรียนไปเหมือนเราๆเหมือนกัน! ดังนั้น สถาบันต่างๆและมหาลัยจึงออกแบบหลักสูตรให้เอื้อกับ Work Life Balance และการหาประสบการณ์การทำงานนอกโรงเรียนนั่นเอง - มีคุณภาพชีวิตที่ดี
คุณภาพชีวิตที่ดี ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูง ผู้คนเป็นมิตร มีระบบขนส่งสาธารณะที่ทั่วถึง จึงทำให้หลายเมืองในประเทศออสเตรเลียได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกเป็นอันดับต้นๆหลายปีติดกันเลย จากการจัดอันดับที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก เช่น Economist Intelligence Unit (EIU) ทั้งเมืองแอดิเลต เพิร์ท เมลเบิร์น และบริสเบนในประเทศออสเตรเลีย!